เป็นที่รู้กันว่าอาเซนอลไม่เคยแพ้คริสตันพาเลซเลยมาตลอด ในศึกลอนดอนดาร์บี้แมท องค์ประกอบของทิศทางที่จะเป็นไปได้สามารถเป็นไปได้ทุกทิศทาง เพราะ คริสตันพาเลซ อยู่ในโซนหนีการตกชั้น จำเป็นต้องเล่นเต็มที่วิ่งสู้ฟัด เพื่อนำพาทีมให้พ้นจากโซนอันตรายของลีก ส่วนทางด้านอาเซนอลต้องการที่จะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่ง Top 4 เพื่อชิงสิทธิ์ในการเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก เห็นได้ว่าแรงจูงใจทั้งสองทีมนั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่องค์ประกอบที่สำคัญกว่าแรงจูงใจคือสภาพของนักเตะทั้งสองทีม
อาเซนอล มีนักเตะตัวหลักที่บาดเจ็บค่อนข้างมาก ทำให้ขุมกำลัง ลดลงไป ผู้รักษาประตูมือ 1 และ 2 อย่าง ปีเตอร์ เช็ก และ ออสปิน่า บาดเจ็บ ทำให้ต้องนำผู้รักษาประตูมือ 3 ขึ้นมาเฝ้าเสาในการแข่งขันนัดสำคัญนี้ แพร์ แมคเตซัคเกอร์ ที่มีปัญหาร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย อารอน แรมซี่ ก็ยังมีอาการบาดเจ็บรุมเร้าไม่สามารถลงมาช่วยทีมได้เช่นกัน ส่วนทางด้าน คริสตัน พาเลซ มี คริสเตียน เบนเทเก้ เป็นกองหน้าเป้านำทีมบุก
การครองเกมไม่ได้ช่วยทำให้ทีมชนะ
จากที่ทราบกันอยู่ว่าการครองบอลมีสิทธิทำให้ทีมสามารถสร้างโอกาสได้สูงแต่การจบสกอร์เป็นสิ่งที่ทำให้ทีมชนะ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าการจบสกอร์ที่เฉียบคม แม้จะมีการครองบอลน้อยกว่าก็สามารถกุมชัยชนะเหนือทีมที่ครองบอลสูงกว่าได้ การครองบอลของอาเซนอลในการแข่งขันนัดนี้สูงถึง 72 % ซึ่งมากกว่าคริสตันพาเลซมากเลยทีเดียวทั้งยังมีการส่งบอลที่แม่นยำ 84 % อีกด้วย แต่ผลเกมการแข่งขันกลับเป็น อาเซนอลที่บุกไปเยือนพ่ายคริสตันพาเลซ 3-0 สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ากระสุนที่แม่นยำกว่าส่งผลต่อเกมได้ดีกว่า เนื่องด้วยโอกาสยิงของทีมเยือนมี 17 ครั้งแต่ไม่สามารถเบิกประตูของปราสาทเรือนแก้วได้เลย แต่ทางด้านคริสตัน พาเลซ ที่มีโอกาสยิง 11 ครั้ง กลับทำได้ถึง 3 ประตู ทำให้ต้องส่งผลในการพิจารณาถึงความสามารถในด้านเกมรุกของปืนใหญ่กันเลยทีเดียว